ในห้วงวันที่ 21 – 22 พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ วัดพระบาทวิหารมงคล (ธ.) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในบ้านปงเคียน ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหมู่บ้านในชนบทแห่งหนึ่งของไทย โดยอาจารย์คุณแม่วิภาดา ใจคำ (เบญจญาติ), หม่อมหลวงสิริณ  รองทรง, พลเอกเสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี, พลเอกสุรชาติ  จิตแจ้ง, คุณวิชชุพงศ์ – คุณอัมพร บวรวิวรรธน์, วุฒิสมาชิก กศิดิษฐ์  อาชาวคุณ และ ดร.อมร – คุณพวงเพชร อภิธารคุณ พร้อมคณะศรัทธาจากกรุงเทพมหานคร
ได้จัดตั้งกองกฐินสามัคคีร่วมกับประชาชนในพื้นที่อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และ กรมทหารพรานที่ ๓๑
เพื่อเป็นทุนทรัพย์ซ่อมแซมเทพื้นลานคอนกรีตฌาปนสถานหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ในพื้นที่บริเวณของวัด
เป็นสาธารณะประโยชน์อันมีค่าสูง โดยมีกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2566 เวลาประมาณ 15.00 น. คณะศรัทธาและประชาชน ได้ร่วมแห่กองกฐินสามัคคีจากหมู่บ้าน ชุมชนและหน่วยงาน เข้าไปยังศาลาปฏิบัติธรรม ของวัดพระบาทวิหารมงคล (ธ.) เวลา 19.00 น. ได้จัดพิธีสวดสมโภชกองกฐินโดยมี พระครูพิพัฒน์ศาสนกิจ
(หลวงพ่อถนอม) วัดพระพุทธบาทผาเรือ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 07.00 น. พิธีตักบาตรเทโว (ตักบาตรข้าวเหนียว) ตามประเพณีของชาวเหนือเชื้อสายอีสานที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2500 เศษๆ และเป็นพิธีที่ชุมชนรักษามายาวนาน ทั้งนี้ ประชาชนได้จัดการฟ้อนต้อนรับอย่างงดงามสมเกียรติ เวลา 09.39 น. เป็นพิธีถวายกองกฐินสามัคคีอย่างงดงามถูกต้องตามประเพณีและศาสนพิธี สร้างความประทับใจยิ่ง ให้กับทั้งประชาชนและเจ้าภาพที่มาร่วมพิธีอย่างหนาตา
โดยมี พระครูวิสิฐวรนาถ เจ้าคณะอำเภอเวียงเชียงรุ้ง มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

 สรุปยอดกองกฐินสามัคคีที่ร่วมถวายรวม 418,228 บาท ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวนมาก นั้นสื่อให้เห็นถึงความรักความสามัคคีในการดำรงไว้ซึ่งศาสนาและประเพณีอันดีงามของคนในชุมชน ศาสนาพุทธจะคงอยู่ได้ด้วยแรงศรัทธาของประชาชนในชุมชน อีกทั้งต้องมีแรงหนุนจากคณะศรัทธาที่มีทุนทรัพย์ เข้ามาช่วยเกื้อหนุน ทั้งนี้ชาวบ้านปงเคียน ตำบลดงมหาวัน

อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ได้แสดงความขอบคุณ หม่อมหลวงสิริณ  รองทรง และคณะศรัทธา รวมถึงหน่วยทหารจากกรมทหารพรานที่ 31 เป็นอย่างสูงที่ให้ความสำคัญต่อวิถีชุมชนไทยในชนบทอย่างดียิ่ง อันความดีที่ท่านมอบให้นี้จะส่งเสริมความรักความสามัคคี และนำความเจริญทั้งทางวัตถุ
และจิตใจมาสู่ชุมชนได้อย่างแน่นอน