อ.คีตา จิตบำเพ็ญนำทีมลูกศิษย์จำนวน 53 คน ไปทำบุญปล่อยปูจำนวน 13 ก.ก และเต่าอีกจำนวน 53 ตัว พร้อมเข้าวัดล้างห้องน้ำ เพื่อชำระล้างจิตใจให้สะอาดเหมือนห้องน้ำที่เพิ่งล้างเสร็จใหม่ๆนั้นเอง

เริ่มกันที่จุดนัดพบจุดแรกของเราที่ไนท์บาซ่า แยกรัชดา

มากันครบแล้ว อ.คีตา เริ่มทำพิธีนำไหว้พระศิวะนาฏราช เพื่อเป็นการเอาเลิกเอาชัยก่อนเดินทาง 

หลังจากเรานั่งรถมาได้ไม่นานก็แวะสถานที่แรกคือ ศาสพันท้ายนรสิงห์

ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ พันท้ายนรสิงห์ เป็นชาวบ้านนรสิงห์ แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ (ปัจจุบันคือ ตำบลนรสิงห์ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง) รับราชการเป็นนายท้ายเรือพระที่นั่งเอกชัย อยู่ในรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) แห่งกรุงศรีอยุธยา

 

ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดี และรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต สมควรเป็นแบบอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป เสียดายที่เรามีเวลาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเลยได้ภาพมาแค่บางส่วน

ออกเดินทางกันต่อมาถึงที่ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่2 จ.สมุทรสาคร เพื่อปล่อยปูจำนวน 13 ก.ก 

ก่อนปล่อยเรามีการทำสวดมนต์พิธีสะเดาะเคราะห์ อานิสงส์จากการปล่อยปู ปูโดนมัดอยู่ทั้งวัน ปล่อยให้เขาได้รับความสบาย ไม่ปวดไม่เมื่อยอีก คนปล่อยเลยพลอยได้ไปด้วย ถ้าเรามีอุปฆาตกรรมอยู่ก็สามารถที่จะตัดอุปฆาตกรรมนั้นได้

ทำพิธีเสร็จแล้ว เดินเข้ามาข้างในชายหาด เตรียมปล่อยปูน้อยๆของเรากันเลย

พร้อมปล่อย ล่ะนะ!!!! ในการปล่อยปูตองใชัความระมัดระวัง เพราะน้องปูจะหนีบเราถ้าเราไม่ระวัง ในการตัดเชือกออกจากตัวปู

น้องปูไปแล้ว ต้องดีใจมากๆแน่ๆเลยได้กลับสู่ทะเล สาธุๆคนปล่อยได้บุญน้องปูได้รับอิสระ มีความสุขมีรอยยิ้มกันทุกคนเลย

ทานอาหารเสร็จเราก็เดินทางต่อไปเพื่อที่จะไปปล่อยเต่าจำนวน 53 ตัว ที่พุธฑมณทลสาย3 จ.นครปฐม 

น้องเต๋าพระเอกของเรามาแล้ว  มีการเขียนชื่อใต้ท้องเต่าด้วยก่อนจะปล่อยลงในน้ำ การปล่อยเต่า จุดประสงค์เพื่อสะเดาะเคราะห์ ขอให้คนที่เจ็บป่วยหายวันหายคืน และมีอายุยืนยาวต่อไป

พร้อมไหมๆจะปล่อยน้องเต่าแล้วนะ ในการปล่อยเต่าก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการจับ มิเช่นนั้นอาจโดนงับมือได้นะ

น้องเต่ากระโดดลงไปแล้ว เห็นไหมทุกคนแฮปปี้มีความสุขมากๆเลย กับการได้ปล่อยเต่าครั้งนี้ สาธุๆค่ะ

ที่สุดท้ายของทริปนี้เรามาจบกันที่ วัดสามพราน จ.นครปฐม เพื่อมาล้างทำความสะอาดห้องน้ำให้วัดกัน

 วัดสามพราน สร้างมาจากแนวความคิดของนางสาวสุดาภรณ์ ชุ้นสามพราน ได้ถวายที่ดินจำนวน 5 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา เพื่อจัดตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม โดยใช้ชื่อครั้งแรกว่า “สำนักสงฆ์พุทโธภาวนา ชุ้นสามพราน” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 ต่อมาได้รับการประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการตั้งวัดในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดสามพราน” เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2528 และ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตามประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2531 บนเนื้อที่ 37 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา บรรยากาศโดยรอบของที่สวยมาก ถ้ามีเวลาน่าจะมาเดินเที่ยวทำบุญที่นี่ 

พวกเราเข้าไปด้านในตึกกันก่อนเพื่อถวายสังฆทานและอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำให้กับวัด

หลังจากเสร็จการถวายก็มาทำความสะอาดห้องน้ำกันเลย การทำบุญด้วยการขัดห้องน้ำนั้นเป็นการทำงานอย่างต่ำแต่ใจสูง ผู้ที่มาปฎิบัติธรรมส่วนใหญ่ ถ้าปฎิบัติธรรมไม่ได้อาตมาจะแนะนำให้ไปขัดห้องน้ำ ขัดไปอธิษฐานจิตไปด้วย เผื่อแผ่ให้ตัวเอง ให้พ่อแม่ ให้คนรัก พอขัดสัก 2-3 ห้อง แล้ววกลับมานั่งสมาธิจะได้ผลดีขึ้น หรือรียกว่าเห็นผลทันตาก็ว่าได้ ต่อไป ไปวัดใหนก็ไปช่วยเอาบุญขัดห้องน้ำนะคะ จะได้บุญฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียตังค์ แถมได้อานิสงส์ใหญ่ หน้าตาผ่องใส มีสง่าราศี ดวงดี ชีวิตรุ่งโรจน์

แต่ละคนทำด้วยความสุขทั้งนั้นเลย ช่วยๆกันทำ เผลอแป็บเดียวทุกห้องก็สะอาดวิ้งๆแล้วล่ะ

ท้ายสุดนี้ก็แฮปปี้เบิร์ดเดย์ อ.คีตาจิต บำเพ็ญที่เกิดในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ภาพปิดท้ายนี้ที่ลูกและหลานได้กราบเท้าผู้เป็นมารดาเป็นภาพที่น่าประทับใจมิรู้ลืมจริงๆ

สำหรับทริปสายบุญครั้งนี้ ขอบคุณ อ.คีตา จิตบำเพ็ญ ที่จัดทริปดีๆให้พวกเราได้มีโอกาสไปร่วมบุญค่ะ กราบงามๆค่ะ