ทาร์ซัส กรุ๊ปผู้จัดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ฉลากและบรรจุภัณฑ์ระดับโลก  ประกาศจัดงาน Labelexpo Southeast Asia 2020 ขึ้นที่ไทยในวันที่7-9 พ.ค.2563 ผนวกงาน Brand Print Thailand2020 งานแสดงสินค้าและนิทรรศการใหม่ด้านไวนิลขนาดใหญ่และสื่อโฆษณารถรางไฟฟ้าตลาดใหญ่มาแรง ชูจัดงานเพื่อเชื่อมต่อธุรกิจงานพิมพ์แบบครบวงจร ปลื้มยอดจองพื้นที่เกือบเต็มแล้ว ผลจากงานนี้คาดอีกสองปีจะมีเงินสะพัดเข้ามาลงทุน 1,000 ล้านบาท    ด้านงาน Labelexpo Southeast Asia2018 ประสบความสำเร็จอย่างดียอดนักลงทุนเข้าเจรจาธุรกิจพันราย เงินยอดขายกว่า400 ล้านบาท 

สำหรับ Labelexpo Southeast Asia 2020 ที่จะจัดขึ้นในไทยวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2563 นั้นได้ร่วมมือกับ บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น  เซอร์วิสเซส จำกัด และหน่วยงาน องค์กร สำคัญๆในประเทศ จัดงานนี้ขึ้น ในขณะนี้ มีผู้สนใจให้การตอบรับจองพื้นที่ เกือบเต็มแล้ว และเพื่อขยายขอบข่ายธุรกิจงานพิมพ์ ได้มีการเปิดตัวงานแสดงสินค้าใหม่ Brand Print Thailand 2020 ที่จะได้จัดขึ้นภายในพื้นที่เดียวกัน

ทั้งนี้ผู้จัดงานได้วางแผนงานแสดงสินค้า Brand Print ทั้งสิ้น 4 เมืองใหญ่ ได้แก่ Brand Print Thailand กรุงเทพ Brand Print Turkey เมืองอิสตันบูล Brand Print China เมืองกวางโจว และ Brand Print Mexico เมืองเม็กซิโกซิตี้ โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ทางผู้จัดงานเลือกจัดงานในระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2563 มุ่งเน้นกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องพิมพ์ในรูปแบบต่างๆ วัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นศูนย์กลางการพบปะ การเจรจาธุรกิจแบบครบวงจรในด้านการพิมพ์ดิจิทัลและมีงานแสดงสินค้า Brand Print ที่จะจัดขึ้นในอีก 3 เมืองใหญ่ ดังนี้Brand Print Turkey เมืองอิสตันบูล จัดขึ้นในเดือนกันยายน 2563 Brand Print China เมืองกวางโจว จัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2563 และ Brand Print Mexico เมืองเม็กซิโกซิตี้ จัดขึ้นในเดือนเมษายน 2564

Mr.Nino Gruettke ประธานกรรมการบริหาร ทาร์ซัส  เอเชีย จัดงานแสดงสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลากว่า 20 ปี เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมงานพิมพ์ฉลากเอเชียและในกลุ่มประเทศอาอาเซียนมีอัตราการขยายตัวเติบโตสูงมาก ล่าสุด“ทาร์ซัส กรุ๊ป”ผู้จัดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ฉลากและบรรจุภัณฑ์ระดับโลก  ประกาศจัดงาน Labelexpo Southeast Asia 2020 ขึ้นที่ไทยในวันที่7-9 พ.ค.2563 ผนวกงาน Brand Print Thailand2020 เป็นเปิดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการใหม่ด้านไวนิลขนาดใหญ่และสื่อโฆษณารถรางไฟฟ้าตลาดใหญ่มาแรง จะถูกจัดขึ้นในไทยควบคู่กัน 2 งานเป็นที่แรก

การจัดงานใหญ่ระดับภูมิภาค ได้สร้างประโยชน์และร่วมแชร์ประสบการณ์ ความรู้และทักษะด้านอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ผ่านงานแสดงสินค้าอื่นๆ อาทิ งานแสดงสินค้าที่จะจัดในเดือนกันยายน 2562 ณ ประเทศตุรกี นอกจากนี้ ยังคงรักษาและสร้างสัมพันธภาพอันดีกับผู้ผลิตฉลากและบรรจุภัณฑ์จากงาน Labelexpo ที่ผ่านมาโดยตลอด อาทิ Agfa, Avery Dennison, Canon, Durst, Epson, Fujifilm, HP, Mactac, Ricoh, Roland, Xeikon และ Xerox เป็นต้น

ด้านนายนายเดวิด  เอ็ทคิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น  เซอร์วิสเซส จำกัด  ผู้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ทาร์ซัส กรุ๊ป เป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลากว่า 20 ปีและ ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี รวมถึงงาน Labelexpo Southeast Asia 2018 ที่จัดเมื่อต้นปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เป็นครั้งแรกมีบริษัทข้ามชาติโชว์เทคโนโลยี200รายดึง นักลงทุนนอกเข้าไทยมากกว่า1,000 ราย มีผู้ชมงาน8,000 ราย มียอดขาย กว่า100ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือกว่า400 ล้านบาท และการจัดงานLabelexpo Southeast Asia 2020 ขึ้นที่ไทยในวันที่7-9 พ.ค.2563 ผนวกงาน Brand Print Thailand2020 งานแสดงสินค้าและนิทรรศการใหม่ด้านไวนิลขนาดใหญ่และสื่อโฆษณารถรางไฟฟ้า ที่มีตลาดใหญ่มาแรง ถือเป็นงานที่จะจัดในอีก2ปีข้างหน้าได้รับผลตอบรับดีแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันยอดการจองพื้นที่เกือบเต็มแล้ว  และคาดว่างานใหญ่ระดับเอเชียนี้   จะดึงเงินลงทุนสะพัดในไทยกว่า1,000 ล้านบาท

ด้านนางประภาพร ณรงค์ฤทธิ์  นายกสมาคมการพิมพ์สกรีนไทย  เปิดเผยว่า งาน Labelexpo Southeast Asia 2020 & Brand Print Thailand 2020 ถือเป็นปีที่สำคัญ เพราะการจัดงานแสดงทางด้านระบบการพิมพ์สกรีนและการพิมพ์ดิจิตอลระดับโลกได้ถูกจัดขึ้นในประเทศไทย อันเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ประสบความสำเร็จด้วยดี

 

ด้านสถานการณ์ภาพรวม อุตสาหกรรมด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทย  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานข้อมูล ปีนี้อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์จะเติบโต 5% และคาดว่าจะเติบโต 5% ต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมูลค่าอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์รวมอยู่ที่ 4-5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ คอสเมติก และ เครื่องสำอาง 30-40% ในอุตสาหกรรมอาหาร 10-15% และที่เหลือคืออะไหล่รถยนต์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)  และไทยยังเป็นผู้ส่งออกงานพิมพ์ลาเบลที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน