DITP เดินหน้าส่งเสริมสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี หรือ DEmark Award ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๑๒ โดยการจัดนิทรรศการแสดงผลงานรอบสุดท้าย และตัดสินรางวัล ระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม เพื่อส่งเสริมผลงานที่โดดเด่นด้านการออกแบบ และยกระดับสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ซึ่งเครื่องหมายรับรอง DEmark จะเป็นใบเบิกทางสู่ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยในปีนี้มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าแข่งขัน จำนวน ๖๘๕ รายการ จากทั่วประเทศไทย

นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีนโยบายเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยการนำนวัตกรรม การออกแบบ และเทคโนโลยี มาพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการไทยให้มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค โครงการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี Design Excellence Award (DEmark) จะช่วยส่งเสริมการออกแบบสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย รวมถึงยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบดีให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ทางการค้า และเกิดความภาคภูมิใจเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป อีกทั้ง กรมได้รับความร่วมมือจากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Institute of Design Promotion (JDP) ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัล Good Design Award (G-mark) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพิจารณาตัดสิน DEmark

ตลอดระยะเวลา ๑๒ ปี ของรางวัล DEmark จากมีผู้สมัครส่งผลงานเพียง ๑๗๑ ผลงาน ในปี ๒๕๕๑ สู่จำนวนผลงานจากผู้สมัครจำนวน ๖๘๕ ผลงานในปีนี้ ซึ่งมีอัตราการส่งผลงานเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ ๓๐ ต่อปี ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าผู้ประกอบการไทยให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้การออกแบบในทุกมิติ โดยผสมผสานการใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม เพื่อสร้างสรรค์ให้สินค้าไทยมีเอกลักษณ์โดดเด่นมากขึ้น กรมจึงมีความเชื่อมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยอย่างเต็มความสามารถ เพื่อส่งเสริมและผลักดันการออกแบบสินค้าของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก

นอกจากนี้ ในปีนี้ เรายังได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงในการสนับสนุนข้อมูลข่าวสารแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นรวมถึงการจัดแสดงผลงานการออกแบบและการประชาสัมพันธ์ผลงานของนักออกแบบไทยและร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัล ในปีนี้ยังได้รับการสนับสนุนพื้นที่จัดงานจากโครงการ ICONSIAM เดสติเนชั่นแห่งใหม่ของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการที่ได้รับความสนใจจากนักออกแบบ ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยหลังจากนี้ กรม และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด จะมีความร่วมมือร่วมกันมากขึ้น อาทิเช่น การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมสินค้านวัตกรรม รวมถึงสินค้ากลุ่ม Niche Market เพื่อจะช่วยส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก

ทั้งนี้ นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการสนับสนุนโครงการ ในครั้งนี้ว่า หนึ่งในพันธกิจของสยามพิวรรธน์ คือ การสนับสนุน ยกระดับขีดความสามารถและเผยแพร่ชื่อเสียงผลงานของศิลปิน นักออกแบบไทยที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล สามารถสร้างชื่อเสียง และความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยและประเทศชาติ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้ทำงานเชิงรุกร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือ DITP ในการมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของเหล่านักออกแบบไทยรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ โดยการนำองค์ความรู้ ข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจและการตลาด ของสยามพิวรรธน์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่งเสริมผลงานให้เกิดความโดดเด่นด้านการออกแบบ และยกระดับสินค้าไทย ตลอดจนผลักดันผลงานของพวกเขาเหล่านั้นให้ก้าวไกลสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ ยังได้ให้การสนับสนุนพื้นที่ในการจัดงานประกวดประจำปี DEmark Show เป็นประจำต่อเนื่องทุกปี และถือเป็นครั้งแรกที่งานนี้ได้ถูกจัดขึ้นภายในพื้นที่ของไอคอนสยาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีปณิธานที่จะเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทย ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้จับมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดร้าน Objects of Desire Store (O.D.S.) รวบรวมสินค้าทุกหมวดหมู่จากงานดีมาร์ค โชว์ แห่งแรกบน บริเวณชั้น 3 (Creative Lab) สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยผลงานที่ชนะจะได้รับคัดเลือกไปนำเสนอและจัดจำหน่าย ณ ร้าน Objects of Desire Store (O.D.S.) รวมถึงพื้นที่ของ ICONCRAFT ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 4 และ 5 ของไอคอนสยาม  ICONCRAFT เป็น “พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ ปั้นยอดฝีมือไทยสู่เวทีโลก” ภายใต้แนวคิด Local Craft Hero to Global Icon”  นำเสนองานนวัตศิลป์และงานคราฟต์แบบร่วมสมัย พร้อมโชว์ศักยภาพและคลังภูมิปัญญาฝีมือของคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์สะกดทุกสายตาทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการต่อยอดโครงการตามนโยบายที่ สยามพิวรรธน์ให้การสนับสนุน นักออกแบบไทยมาโดยตลอดอีกด้วย

ภายในงานเปิดนิทรรศการ มีการเสวนาพิเศษหัวข้อ “รางวัล DEmark ประตูสู่ความสำเร็จระดับสากล” โดยนักออกแบบที่ได้รับรางวัล DEmark ประจำปี 2018 อาทิ คุณปิยะพงศ์ ภูมิจิตร  นักออกแบบกราฟิก/กรรมการผู้จัดการ Shake & Bake Studio  ดร.กฤษณ์ เย็นสุดใจ นักออกแบบแฟชั่นผู้ออกแบบผลงานเสื้อผ้าให้แก่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ และ คุณรัฐ  เปลี่ยนสุข ผู้อำนวยการออกแบบสัมผัสแกลอรี่ ผู้สร้างสรรค์ผลงานออกแบบผลิตภัณฑ์สู่งานศิลปะ

รางวัล DEmark ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด DESIGN IS LIVE! ดีไซน์สร้างวิถีชีวิต  และในปีนี้มีการพิจารณารางวัลเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มผลงาน จากเดิม 6 กลุ่ม มาเป็น 7 กลุ่ม   คือกลุ่มผลงานออกแบบตกแต่งภายใน (Hotel / Restaurant / Café)  ซึ่งเป็นกลุ่มผลงานใหม่ที่เกิดขึ้น ในปีนี้ โดยมีผลงานของนักออกแบบส่งผลงานเข้าร่วมโครงการได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้  คือมีจำนวน 685 ราย ซึ่งผลงานที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นในแต่ละสาขา ดังนี้ 

  1. กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Industrial Process / Industrial Craft)  จำนวน 106 รายการ
  2. กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Gift & Decorative Items / Household Items) จำนวน 131 รายการ
  3. กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณท์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย (Creative & Innovative  Fashion / Apparel / Jewelry / Textile / Etc.)  จำนวน 88 รายการ
  4. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Home Appliances/ Equipment and Facilities for Office / Etc.)  จำนวน 35 รายการ
  5. กลุ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design) จำนวน 66 รายการ
  6. กลุ่มผลงานกราฟฟิกดีไซน์  (Font / Graphic on Surface / Digital Media / Identity Design)  จำนวน 68 รายการ
  7. กลุ่มผลงานออกแบบตกแต่งภายใน (Hotel / Restaurant / Café)  ซึ่งเป็นกลุ่มผลงานใหม่ที่เกิดขึ้น ในปีนี้ จำนวน 26 รายการ

รวมผลงานที่จะนำมาจัดแสดงนิทรรศการ ณ ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร จำนวนทั้งสิ้น 520 รายการ  และจะได้รับการพิจารณาตัดสินและคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ในรอบสุดท้าย เพื่อรับรางวัล DEmark 2019 ซึ่งรางวัล DEmark จะช่วยส่งเสริมการออกแบบสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย รวมถึงยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบดีให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ทางการค้า  และเกิดความภาคภูมิใจเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป

สำหรับผู้ได้รับรางวัล DEmark  จะได้รับสิทธิเข้ารอบ 2 รางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่นโดยทันที นักออกแบบ/ผู้ประกอบการสามารถใช้โลโก้ความความร่วมมือ DEmark และ G-mark เพื่อช่วยส่งเสริมช่องทางทางการค้าต่อไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการโฆษณา ในสื่อต่างๆ รวมทั้งนำสินค้าไปจัดแสดงนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้า  STYLE Bangkok งาน Milan Design Week ประเทศอิตาลี และงาน Good Design Exhibition ประเทศญี่ปุ่น โดยงานจัดนิทรรศการแสดงผลงานนักออกแบบไทย ในโครงการพิจารณาคัดเลือกสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี ปี  2562 หรือ Design Excellence Award 2019 (DEmark) จะจัดขึ้นที่ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร ระหว่างวันที่ 1-13 มิถุนายน 2562  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2507-8262,0-2507-8278